Sam Bankman-fried อคิลลิส แห่ง Crypto Currency

Sam Bankman-fried อคิลลิส แห่ง Crypto Currency

หากพูดถึง Sam Bankman-fried หรือชื่อย่อในวงการ SBF เด็กหนุ่มแสนฉลาดที่ทำเงินจากวงการ Crypto ด้วยการ Arbitrage Bitcoin ระหว่าง 2 ตลาดคือตลาด อเมริกาและญี่ปุ่น จนร่ำรวย ก่อตั้งกองทุนที่มีชื่อว่า Alameda Research และหลังจากนั้นก็เปิด Exchange Crypto ที่มีชื่อว่า FTX ด้วยฝีมือและความฉลาดของเค้าทำให้เค้าร่ำรวยอย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้จักในวงการการลงทุน ทำให้ FTX สามารถระดมทุนจากกองทุนใหญ่ได้ อย่าง Softbank, Temasek, Sequoia Capital, Blackrock แค่ชื่อแหล่งทุนที่ใส่มาให้ FTX ก็เรียกได้ว่าตัว top ในวงการการลงทุนแล้ว

หลังจากระดมทุน FTX ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นอย่างมาก เข้าซื้อกิจการและให้ทุนแกโครงการต่างๆมากมาย นอกจากนี้กองทุน Alameda Research ที่เป็นกองทุนที่โฟกัสใน crypto ยังทำกำไรใน defi ได้ในหลายต่อหลายครั้ง

จนเรียกได้ว่า FTX และ Sam Bankman-fried แข็งแกร่งและเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากในโลกคลิปโต อีกทั้ง product การ trade ใน FTX ค่อยข้างแปลกใหม่ ดึงดูดเมล็ดเงินจากนัก trade เป็นจำนวนมาก ทุกอย่างดูดีไปหมด connection ที่แข็งแกร่ง เม็ดเงินมหาศาล ทำให้ Sam เปรียบเสมือน อคิลลิส ที่อยู่เป็นคงกระพัน เพราะไม่ว่า วิกฤต crypto จะเกิดขึ้นกี่ครั้ง Sam ก็นำพา FTX และ Alameda Research รอดพ้น พร้อมทั้งยังทำกำไรได้เสมอ เรียกว่า รบชนะมาโดยตลอด

แต่แล้วก็มีบ้างผิดแปลกไปเมื่อคนเราเกิดความโลภ การนำเงินลูกค้า ไปใช้ในการทำ Leverage เงินกู้ของ Alameda Research ซึ่งพัวพันกับ Token FTT โดยจุดประสงค์การออก Token แค่เอามาลดความ Fee ในการ Trade ที่ FTX แล้วจะนำกำไรมา Burn Token การที่ไม่มีอะไรซับซ้อนของ Token ทำให้สามารถนำ Token ที่ออกไปค้ำประกันได้

เรียกได้ว่าการสร้าง Token นี้เหมือนการเสกเงินที่ไม่มีอยู่จริง แล้วไปก่อหนี้ และการที่ SBF นำเงินลูกค้าไปใช้ประโยชน์ก็เกิดความสงสัยว่า นักลงทุนที่ใส่เงินให้ FTX ที่เป็น Big Name ไม่คิดจะมีการตรวจสอบการดำเนินงานต่างๆของธุรกรรมใน FTX กันบ้างเลยหรอ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเงียบๆตลอดระยะเวลาหลายปี จน Sam เริ่มเข้า Connection เพื่อดำเนิน lobby หรือคุยผลประโยชน์อะไรกับขั่วการเมือง จนสะกิดเท้าของ CZ (Changpeng Zhao) แห่ง Binance ผู้ Run วงการ Crypto มานาน และเป็นเจ้าของ Exchange อันดับ 1 อย่าง Binance ซึ่งนักลงทุนที่ใส่เงินให้ FTX ชุดแรกๆก็มี CZ แห่ง Binance ด้วย

แต่แล้ว เมื่อคุยกันไม่ถูกคอกัน CZ เห็นจุดอ่อนของ FTX และ Alameda Research ที่เรียกได้ว่า เสมือนจุดอ่อนของ อคิลลิส ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าตัวเอง ที่แทงที่เดียวถึงขั้นสิ้นชีพเลยนั้นคือ Token FTT นั้นเอง ด้วยความที่ CZ เป็นนักลงทุนกลุ่มแรกใน FTX ทำให้ตนได้รับ FTT เป็นจำนวนมาก แค่เพียง CZ ทวิตว่าจะทำการขาย FTT ทิ้งทั้งหมดเพราะพบความผิดปกติ ซึ่งจะนำพามาซึ่งความเสี่ยง เหมือนครั้งเหตุการณ์ Luna เพียงแค่นี้ทุกอย่างเหมือน effect อย่างรวดเร็ว เหมือนแผลใต้ฝ่าเท้าที่ เลือดไหลไม่หยุด เกิดติดเชื้อทันที เพราะทุกคนก็เริ่มหาความจริงว่ามีอะไรอยู่ใต้เท้า อคิลลิส จนทำให้ FTX และ อาณาจักรของ Sam ล่มสลายผ่านในไม่กี่วัน

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ หลายคนอาจมองว่าเข้าตำรา black swan หรือหงษ์ดำ แต่ผมกลับมองว่าเข้าตำรา อคิลลิส มากกว่า เพราะ Black Swan นั้นเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้หรือพบเจอได้ยาก และไม่มีใครรู้ว่าจะเจอหงษ์ดำตัวนั้นที่ไหน แต่เหตุการณ์นี้ CZ เห็นเต็มๆแล้วเลือกที่จะแทงตรงจุดใต้ฝ่าเท้าเข้าไปตรงๆ เรียกได้ว่า สิ้นชีพล้มละลายกันเลยที่เดียว

คำถามต่อมา ทำไม CZ เลือกที่จะประกาศให้คนรู้กันทั้งหมด พร้อมกับการเทขาย FTT Token แบบไม่สนราคาว่าจะลงไปแค่ไหน แล้วทำให้ exchange อันดับต้นๆอย่าง FTX ต้องเกิดปัญหาทำให้ลูกค้าแย่งกันถอดเงินจนหมด หรือว่า CZ เพียงเพื่อต้องการประกาศให้รู้ทั่วกันว่ามาตรฐานของ Exchange Crypto คือการไม่ยุ่งกับเงินลูกค้า ไม่ฉะนั้นจะต้องปิดกิจการทุกราย

แล้ววงการ Crypto คงต้องหา solution กันใหม่ว่าจะให้ user หรือคนที่จะนำเงินมาใส่และเก็บออมใน Crypto จะทำอย่างไร หรือจะต้องใช้ Hardware wallet กันทุกคนเลยหรอ หากเป็นเช่นนี้ คนทั่วๆไป จะออมใน crypto จะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เพื่อเก็บออม แล้วยังไม่จบต้องระวังเก็บรักษา seed ให้ดี

Simple but not easy

จากเหตุการณ์ Exchange ล้มแล้วล้มอีก ถอดเงินกันไม่ได้จนเกิดคำที่ว่า Not your key not your coin ซึ่งทำให้โลก crypto ยังต้องวิวัฒนาการอีกเยอะ

ขอขอบคุณภาพประกอบ

Wiki Achilles

Leave a Reply

Your email address will not be published.