Netflix โชว์ตัวเลขไม่หวั่นเจ้าใหม่เปิดแข่ง
หลังจากการประกาศเปิดตัว Disney+ กับ Apple TV หลายต่อหลายคนก็จับตามอง Netflix ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ล่าสุด Netflix ก็ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกปี 2562 ว่าทำรายได้ได้กว่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ บนสถิติผู้สมัครที่ชำระค่าบริการทั่วโลก 148 ล้านราย โดยในไตรมาส 1 มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ถึง 9.6 ล้านราย เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ข้อมูลจาก บริษัทวิจัยสเตทิสตา (statista.com) ประเมินตัวเลขฐานผู้ใช้บริการสตรีมมิงอย่าง Netflix ในประเทศไทยว่าจะเพิ่มเป็น 546,000 รายในปี 2563 อย่างไรก็ตาม การประเมินนี้ยังไม่มีความแน่ชัด เพราะ Netflix เปิดเผยเพียงว่าในฐานสมาชิกใหม่ 9.6 ล้านรายนั้นเป็นสมาชิกในสหรัฐอเมริกา 1.74 ล้านราย และ 7.86 ล้านรายในประเทศอื่น
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2019 นี้ซีรีส์ที่ไม่คิดว่าจะเป็นที่นิยมกับฮิตขึ้นมาก็คงหนีไม่พ้น
ซีรีส์เกาหลี Kingdom ที่ทำออกมาเพียงไม่กี่ตอนเพื่อทดสอบตลาดเท่านั้น แต่ไงฮิตจน คนดูบ่นว่า กว่าจะถ่ายทำ season ต่อไปใช้เวลานานเหลือเกินซึ่งคาดว่าเสร็จพร้อมฉายประมาณปี 2020
Netflix ระบุอีกว่ามีสมาชิกจำนวนถึง 45 ล้านครอบครัวที่ชมซีรีส์เรื่อง Umbrella Academy ภายใน 4 สัปดาห์แรกที่เปิดให้ชม ขณะที่ภาพยนตร์แอ็คชั่น Triple Frontier นำแสดงโดย เบน แอฟเฟล็ก มีผู้ชมถึง 52 ล้านครอบครัวในช่วง 4 สัปดาห์แรกที่นำออกฉาย
ส่วนที่แปลกใหม่สุดคือ You vs Wild สารคดีกึ่งซีรีส์ของ Bear Grylls ที่มอบประสบการณ์ที่เจ้าอื่นไม่เคยทำมาก่อน เพราะผู้ชมสามารถเลือกได้ว่าให้
Bear Grylls ไปทางไหนกินหรือไม่กินอะไร เรียกได้แทบจะเหมือนเล่นเกมส์ชีวิตจริงเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ Netflix ยังย้ำเรื่องการสร้างฟีเจอร์ Top 10 list ที่จะเริ่มใช้ในไตรมาสสองที่
สหราชอาณาจักร ก่อนแล้วค่อยใช้ทั่วโลก คงต้องมาดูกันว่า แค่ฟีเจอร์ที่ฟังดูแล้วธรรมดาไม่เห็นแปลกอะไรจะทำให้ Netflix โตแค่ไหน
ส่วนประเด็นการเปิดตัวของ Disney+ ทาง Netflix เองก็ไม่ได้กลัวอะไรเลย เพราะ
ยังมีโอกาสอีกมหาศาลในด้านความต้องการรับชมทีวีและภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ ซึ่ง Netflix สามารถตอบสนองสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของความต้องการนั้น เช่นจากข้อมูล ในสหรัฐอเมริกา ชั่วโมงการชมทีวีสตรีมมิ่งของ Netflix คิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 10 ของการดูทีวีทั้งหมดเท่านั้น นอกจากนี้ทาง Sandvine ประเมินว่า การชม Netflix ผ่านอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ทั่วโลกคิดเป็นเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น จึงหมายความว่า Netflix ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมากในหลายประเทศผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ
ขอขอบคุณ
