เปิดตำนาน หมูฮ้อง สุดยอดเมนูหมู 3 ชั้น

หากพูดถึงเมนูหมูสามชั้นที่นอกจากหมูกรอบแล้ว หมูสามชั้นนำไปต้มกับซีอิ๋วพร้อมเครื่องเทศสมุนไพร ที่มีชื่อว่า หมูฮ้อง เป็นอีก 1 เมนูที่เลิศรสและค่อนข้างจะหาทานได้ยากสักหน่อยสำหรับสูตรแบบดังเดิม เมนูเป็นที่นิยมในย่านเชื้อสายจีน หรือถ้าจังหวัดท่องเที่ยวก็จะเป็นที่จังหวัดภูเก็ต และด้วยการเมนูนี้สืบทอดพัฒนามาเป็นระยะเวลาได้ บ้างร้านอาหารอาจจะมีการพัฒนาใส่ไข่ไก่ลงไป จนบ้างครั้งสูตรเดิมจางหายคล้ายกับหมูพะโล้ไป วันนี้ผมไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของเมนูนี้ หลังจากได้อ่านแล้วผมค่อนข้างเชื่อว่ามีโครงเรื่องหรืออาจเป็นเรื่องจริงที่เล่าต่อๆกันมาก็ได้

หมูฮ้อง หรือ หมูหอง ภาษาจีนเรียกว่า 封肉
รัชศกไคผิง(開平)ที่3 ค.ศ.909 ฮ่องเต้เหลียงไท่จู่(梁太祖)แห่งราชวงศ์โฮ่วเหลียง(後梁)แต่งตั้ง หวังเสิ่นจือ(王審知) เป็น หมิ่นหวัง(閩王) แล้วส่งมาปกครองดินแดนรัฐหมิ่น(國) คือดินแดนมณฑลฮกเกี้ยนในปัจจุบัน
หวังเสิ่นจือ ชื่อรองว่า ซิ่นทง(信通) เป็นทายาทของหวังเจี้ยน(王翦) แม่ทัพคนสำคัญในสมัยราชวงศ์ฉิน (สมัย ฉินซีฮ่องเต้ ซึ่งราชวงศ์นี้อยู่ไม่นานนัก ฮ้องเต้องค์แรกของจีน ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน ) เป็นชาวเมืองกู่สื่อ ปัจจุบันเมืองกู้สื่ออยู่ในมณฑลเหอหนาน ฮ่องเต้หวังเสิ่นจือมาดูแลพื้นที่ ในตอนนั้นดินแดนทางเหนือของจีนมีสงครามบ่อย หวังเสิ่นจือพาชาวจีนจากดินแดนทางเหนืออพยพเข้ามาอยู่ในดินแดนหมิ่น ภายหลังกลุ่มคนที่อพยพลงมารัฐหมิ่น ก็อพยพเข้าดินแดนรัฐหนานฮั่น(南漢)
ตอนที่หวังเสิ่นจือเดินทางมาถึงฮกเกี้ยน ชนพื้นเมืองให้การต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างดี ขุนนางในท้องที่เมืองถงอัน(同安)ซึ่งเป็นเมืองในดินแดนหมิ่นทำอาหารเลี้ยงฉลองที่เขาได้รับการแต่งตั้ง อาหารนั้นทำจากหมูสามชั้นตัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส เลียนแบบตราประทับที่ฮ่องเต้แต่งตั้ง คำว่า ฮ้องเพี้ยนมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่า แต่งตั้ง อักษรจีนคือ 封


อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ในงานแห่พระที่เมืองถงอัน ผู้คนแต่ละบ้านทำโจ๊กหรือข้าวต้มให้คนหามเกี้ยว และที่มาร่วมงานเพราะเชื่อว่าโจ๊กบ้านไหนที่มีคนกินเยอะ บ้านนั้นจะเจริญรุ่งเรือง
ในตอนนั้นมีคนนึง บ้านยากจนมาก อยากทำอาหารแบบบ้านคนอื่น จึงขายทรัพย์สินทั้งหมดในบ้านไปซื้อหมูสามชั้นมา เขาจินตนาการว่าถ้าเอามันวางบนโจ๊กหรือข้าวต้มมันดูเหมือนทองคำส่องแสงระยิบระยับในท้องทะเล เขาเอาหมูสามชั้นไปต้มกับซีอิ๊ว หลังจากนั้นเอาหมูที่ต้มแล้วใส่ในหม้อโจ๊ก ขณะเดียวกัน หมูสามชั้นที่ต้มส่องแสงแวววาวออกมา กลิ่นหอมกระจายไปทั่วจนผู้คนต่างพากันถือถ้วยชามมารับพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
หลังจากนั้นไม่กี่ปี เขามีฐานะร่ำรวยขึ้น ชีวิตดีขึ้น ผู้คนจึงซุบซิบกันเห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดนัก ต่างเลียนแบบวิธีการทำของเขา หลังจากนั้นอาหารจานนี้ก็แพร่ไปทั่ว อาหารจานนี้เรียกว่า 方肉 แปลว่า เนื้อเหลี่ยม คำว่า 方 กับ 封 ในภาษาฮกเกี้ยนมีเสียงพ้องกัน ภายหลังคนจึงเรียก 封肉

ซึ่งหลังจากคิดดูแล้วตำนานเรื่องเล่าเรื่องแรกน่าจะมีโอกาสเป็นจริงมากกว่าตำนานที่ 2 เพราะถ้ามีปัจจัยว่า ตำนานแรกเกิดในสมัย ฉินซีฮ่องเต้ ผู้ที่รวบรวม 7 แคว้นทำสงครามมากมาย จนรวบรวมกลายเป็น 1 เดียวได้ และได้สถาปนาตัวเองเป็นฮ้องเต้ และนับจากนั้นมา ชาวจีนก็เริ่มคุ้นเคยกับตำแหน่งฮ้องแต่ หรือคำว่าฮ้องเต้ ซึ่งในยุคโบราณการบริโภคเนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมูยังถือว่าหาได้ยากอยู่ การนำมาทำเมนู หมูฮ้องนั้นต้องใช้ หมู 3 ชั้นที่หั่นค่อนข้างเต็มๆ คำ จึงถือว่าเป็นเมนูราคาแพงมากๆ จึงไม่แปลกหากจะตั้งชื่อว่า หมูฮ้องแต้ จนสุดท้ายผ่านการเวลามาจนกลายมาเป็นหมูฮ้องในปัจจุบัน

ขอขอบคุณ

รู้จีนรู้จริง 知华如华 Chinese For Thai

sohu.com

Leave a Reply

Your email address will not be published.