ญี่ปุ่นค้นพบวิธีเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดพิษ
หากพูดถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยแต่ก็มีความเสี่ยงถึงความตายได้ คงไม่พ้นปลาปักเป้า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีรสชาติยอดเยี่ยมแต่ด้วยตัวมันมีอวัยวะที่มีสารพิษ ทำให้เชฟที่จะทำปลาปักเป้านั้นต้องมีความชำนาญสูง
แต่ทว่ามีข่าวดีเมื่อทางเครือข่ายโรงแรมอาคิตะ เคียวเอ คันโค ในจังหวัดอาคิตะ ได้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปลาปักเป้าที่ไม่มีพิษที่เรียกว่า “โทระฟุกุ” โดยเลี้ยงในบ่อที่ใช้น้ำแร่ และจัดทำเป็นเมนูอาหารให้กับแขกของโรงแรมตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว
การเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยมีลูกปลาปักเป้า 4,000 ตัว เลี้ยงในน้ำจากบ่อน้ำแร่ ซึ่งทำให้สามารถเลี้ยงปลาได้แม้แต่ในฤดูหนาว และยังช่วยให้ปลาเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเลี้ยงเพียงแค่ 1 ปี เร็วกว่าการเลี้ยงในทะเลราว 6 เดือน
เชื่อกันว่า ปลาปักเป้ามีพิษอันตรายอยู่ที่ตับและอวัยวะอื่น ๆ แต่ถ้าหากเลี้ยงปลาในบ่อโดยไม่มีสาหร่ายทะเลและหอย ก็ทำให้พิษให้ปลาปักเป้าลดลงหรือไม่มีพิษได้ แต่อย่างไรเพื่อความไม่ประมาท เชฟที่ทำเมนูปลาปักเป้าก็ควรมีความชำนาญในการทำอยู่ดี
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงปลาปักเป้าครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มโรงแรม อาคิตะ เคียวเอ คันโค ได้ซื้อ โรงแรมเก่าแห่งหนึ่งที่จังหวัดอิวาเตะเมื่อเดือนกันยายน 2560 โรงแรมแห่งนี้ปิดตัวลงมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากเมืองชิซูคูอิชิ ที่ตั้งของโรงแรมมีประชากรลดลงอย่างมากจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ทางบริษัทจึงได้เปลี่ยนโรงแรมร้างแห่งนี้เป็นบ่อเลี้ยงปลา โดยติดตั้งแท็งก์น้ำขนาด 10,000 ลิตรจำนวน 10 แท็งก์เพื่อใช้เลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษ
หลังประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษ ทางบริษัทได้ขยายตัวเปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงด้วยความช่วยเหลือจากบริษัทยูเมโสโซะ ผู้ชำนาญด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัดโทชิงิ เพื่อเผยแพร่การเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษ ให้เป็นธุรกิจที่ช่วยฟื้นฟูชีวิตของพื้นที่ที่ซบเซาจากประชากรที่ลดลง
บริษัทยูเมโสโซะตั้งเป้าจะเผยแพร่เทคนิคการเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษโดยใช้น้ำแร่ เนื่องจากญี่ปุ่นมีบ่อน้ำแร่อยู่ทั่วประเทศทั้ง 47 จังหวัด มากกว่า 27,000 แห่ง โดยขณะนี้มีผู้สนใจมากกว่า 10 รายเริ่มทดลองเลี้ยงปลาปักเป้าปลอดสารพิษ โดยปรับเปลี่ยนสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างให้เป็นบ่อเลี้ยงปลา หนึ่งในนั้นคือโรงเรียนประถมร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดมิยาซากิ บนเกาะคิวชู
ขอขอบคุณ
