กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว
หากใครที่ดูหนังจีนบ่อย ชื่อของ กบฎไท่ผิง จะถูกพูดถึงบ่อยแต่ไม่มีการบอกรายละเอียดสักเท่าไร กบฎไท่ผิง นั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์สู้กันทางการเมืองและยังนับว่าเป็นเหตุการณ์ กบฏที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากครั้งหนึ่งของมนุษย์เราก็ว่าได้ มีการคาดการณ์ประมาณว่า กบฏครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 20–70 ล้านคนไปจนถึง 100 ล้านคน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ( ค.ศ 1850–1864 ) เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1850 ตรงกับรัชสมัยของจักรพรรดิเสียนเฟิง (พระสามีของ ซูสีไทเฮา) และสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1864 ในรัชสมัยของจักรพรรดิถงจื้อ
เหตุเกิดจากชายที่มีชื่อว่า หง ซิ่วเฉฺวียน บัณฑิตที่ผิดหวังจากระบอบการสอบไล่เป็นขุนนาง จึงได้ทำการศึกษา ศาสนาคริสต์ และนับถือศาสนาคริสต์ในที่สุด แต่หลังจากนับถือแล้ว เขาได้ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาและคำสอนจนมีคนติดตามเขาเป็นจำนวนมาก แต่ หง ซิ่วเฉฺวียน ไม่ได้หยุดแค่นั้น ไม่รู้ด้วยความคิดอะไรของเขา หง ซิ่วเฉฺวียน ได้ใช้ทักษะการชักจูงคนอ้างตนว่า เขานั้นเป็นน้องชายพระเยซู เขาก่อตั้งลัทธิบูชามหาเทพ (拜上帝教) ที่มุ่งหวังจะให้ประชาชนหันมานับถือศาสนาคริสต์ตามแบบของเขาที่มีการบูชาเทวดาต่าง ๆ ทั้งจะโค่นล้มราชวงศ์ชิง แล้วจัดการปฏิรูปบ้านเมืองขนานใหญ่ การปฏิรูปของหง ซิ่วเฉฺวียน ไม่ได้เป็นไปเพื่อเอาชนชั้นรากหญ้าเข้าแทนที่ชนชั้นปกครองเท่านั้น แต่พยายามจะสับเปลี่ยนระเบียบทางสังคมและจิตวิญญาณด้วย
แนวคิดหลักๆที่ หง ซิ่วเฉฺวียน นำมาใช้ก็อย่างเช่นการปฎิรูปที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปมีที่ทำกิน การเท่าเทียมของชายและหญิง จากแนวคิดที่ classic เสมอไม่ว่าสมัยไหน บวกกับช่วงนั้นเกิดสงครามฝิ่นกับต่างชาติ ราชวงศ์ชิงเริ่มโดยสั่นคล่อน ชาวบ้านเดือดร้อน อีกทั้งการใช้ชีวิตของชนชั้นสูงที่แตกต่างกับชาวบ้านเกินไป ทำให้ชาวบ้านเข้าร่วมกับ หง ซิ่วเฉฺวียน เป็นจำนวนมาก
หลังจากลัทธิบูชาเทพมีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากก็เริ่มต่อต้านทางการที่เป็นราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นชาวแมนจู ด้วยความที่ชาวบ้านเป็นชาวฮั่นที่ไม่พอใจแมนจูอยู่แล้วจึงทำให้ลัทธิบูชาเทพแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เริ่มก่อการจลาจล ได้ก่อการปฏิวัติที่หมู่บ้านจินเถียน มณฑลกว่างซี และสถาปนาอาณาจักรไท่ผิงเทียนกว๋อ (เมืองแมนแดนสันติ) พร้อมตั้งกองทัพใหญ่ห้าทัพสำหรับต่อสู้กับทางราชสำนัก
หง ซิ่วเฉฺวียน ซึ่งเดิมที่อ้างตนเป็นน้องชายพระเยซู และเป็นประมุขพรรคบูชาเทพก็ได้ สถาปนาตนเองเป็น ฮ่องเต้ เพราะเมื่อเป็นน้องชายพระเยซู ก็เปรียบเสมือน โอรสสวรรค์ เช่นกัน
เขาก่อตั้งเมืองใหม่ เรียกว่า “เมืองแมนแดนสันติ” แล้วจัดตั้งทัพมุ่งขึ้นเหนือเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1851 เพื่อโจมตีชาวแมนจู ครั้นวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1853 ทัพเมืองแมนแดนสันติยึดหนานจิง (南京; “เมืองใต้”) ไว้ได้ จึงเอาเป็นเมืองหลวง โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “เทียนจิง” (天京; “เมืองฟ้า”) ) ซึ่งนับจากนั้น ไท่ผิงเทียนกว๋อก็ครอบครองดินแดนทางใต้ของจีนเกือบทั้งหมด คิดเป็นพื้นที่หนึ่งในสามของประเทศจีน สั่นคลอนอำนาจรัฐของราชวงศ์ชิงอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเคยมุ่งหน้าไปยึดเป่ย์จิง (北京) เมืองหลวงของราชวงศ์ชิง แต่ไม่สำเร็จ
ภายหลังที่แย่งชิงทรัพยากรและชาวบ้านจากราชวงศ์ชิงมาได้จำนวนมากทำให้ เมืองแมนแดนสันติก็เกิดจุดเปลี่ยน เมื่อเกิดการแย่งชิงภายในกันเองอีกทั้ง หง ซิ่วเฉฺวียน ก็เริ่มเสพสุข สร้างวังใหญ่โต อีกทั้งแต่งตั้งเครือญาติและคนสนิทให้เป็นตำแหน่งต่างๆ จากที่เคยยึดหลักความดีงามตามแบบฉบับศาสนาก็เปลี่ยนไปเหมือน ทรราชทั่วไป
นักประวัติศาสตร์จีนบางคนกล่าวว่า รัฐบาลไท่ผิงเทียนกว๋อในช่วงหลังคือ
“รัฐบาลสามไม่ 三无” คือ
ไม่มีคุณธรรม
ไม่มีเสรีภาพ
ไม่มีศักดิ์ศรี
ว่ากันว่า นับจาก ค.ศ.1854 ถึง ค.ศ.1858 หง ซิ่วเฉฺวียน ไม่เคยออกราชการแม้แต่ครั้งเดียวลุ่มหลงอยู่กับการเสพสุข และลูกน้องที่บริหารงานผิดพลาดนำไปสู่การล่มสลาย ไท่ผิงเทียนกว๋อ เมื่อเกิดความอดอยากขึ้น กองทัพชิงปิดล้อม หนานจิง เมืองหลวงของ กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว จนทำให้ไม่มีเสเบียงที่จะเลี้ยงดูผู้คนได้ หงซิ่วเฉวียนประกาศให้ไพร่พลกินหญ้าแทนข้าว โดยประดิษฐ์คำสวยหรูว่า กิน “น้ำค้างหวาน 甜露” จนสุดท้าย หงซิ่วเฉวียน ก็ได้ล่มป่วยและตายลงที่สุดเป็นอันจบสิ้นของ ไท่ผิงเทียนกั๋ว
หลังจากไท่ผิงเทียนกว๋อล่มสลาย หงเทียนกุ้ยฟู่ 洪天贵福 ลูกชายของหงซิ่วเฉวียนที่ถูกจับได้ให้ปากคำกับกองทัพชิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ข้าอายุ 16 ปี กษัตริย์สวรรค์เป็นบิดาของข้า ข้ามีแม่ทั้งหมด 88 คน ข้าเป็นบุตรชายคนที่สองที่เกิดจากนางไล่ซื่อ ตอน 9 ขวบ ข้ามีภรรยา 4 คน” จากปากคำนี้ หงซิ่วเฉวียนมีนางสนมถึง 88 คน
จากที่สร้างฝันความเท่าเทียมกันของ ชาย-หญิง หลังก่อตั้ง ไท่ผิงเทียนกั๋ว ได้ยกเลิกอาชีพโสเภณี ยกเลิกการรัดเท้าของหญิงจีน จนกลายเป็นฮ่องเต้ที่มีสนมถึง 88 คน จากอุดการณ์ที่ดีสู่ความเสื่อมด้านมืดของจิตใจเมื่อได้สัมผัสอำนาจเหนือผู้คนเป็นเหตุให้เกิด กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว ที่ทำให้ผู้คนต้องตายเป็นจำนวนมากจากสงครามแห่งความฝัน เพียงชายคนที่ชื่อ หงซิ่วเฉวียน อ้างตนว่าเป็น น้องชายพระเยซู
ขอขอบคุณ
